นกกระเต miệngมีสีสันสดใส! นกชนิดนี้มีขนปีกที่สวยงามราวกับผลงานศิลปะบนท้องฟ้า

นกกระเต (Dove) เป็นสมาชิกหนึ่งในตระกูล Columbidae ซึ่งรวมถึงนกพิราบและนกเขาด้วย นกกระเตกระจายพันธุ์ไปทั่วโลก โดยมีมากกว่า 300 สายพันธุ์ แพร่กระจายไปตามทวีปต่างๆ ยกเว้นแอนตาร์กติกา

นกกระเตมักมีรูปร่างป้อมๆ คอกสั้น และมีจะงอยปากที่หนาและโค้ง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของนกกระเตก็คือขนปีกของมัน ซึ่งมักจะมีสีสันสดใสหลากหลาย ตั้งแต่สีขาว สีเทา สีน้ำตาล ไปจนถึงสีเขียวและม่วง

วิถีชีวิตของนกกระเต

นกกระเตเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางวัน (Diurnal) โดยมักจะกินเมล็ดพืช ถั่ว ผลไม้ และบางครั้งก็อาจกินแมลงด้วย

• การหากิน: นกกระเตมักจะหากินบนพื้นดิน โดยใช้จะงอยปากของมันขุดคุ้ยหาอาหาร เช่น เมล็ดพืชและถั่ว
• การบิน: เมื่อเทียบกับนกชนิดอื่น นกกระเตถือว่าเป็นนกที่บินได้ไม่ค่อยเก่งนัก แต่ก็สามารถบินได้ระยะทางไกลและขึ้นไปยังที่สูงได้
• การสื่อสาร: นกกระเตมีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมักจะเป็นเสียง “coo-coo” หรือ “doo-doo”

การผสมพันธุ์

นกกระเตมีพฤติกรรมในการผสมพันธุ์ที่น่าสนใจ โดยมักจะสร้างรังบนต้นไม้ สาขา หรือแม้แต่หน้าผา นอกจากนั้น นกกระเตยังเป็นสัตว์ที่ผูกพันกันอย่างมาก โดยตัวผู้และตัวเมียจะร่วมกันดูแลลูกหลาน

• การสร้างรัง: รังของนกกระเตมักทำจากกิ่งไม้ ทะลาย ใบไม้ และวัสดุอื่นๆ
• การวางไข่: ตัวเมียนกกระเตจะวางไข่ 1-2 ฟอง
• การดูแลลูกหลาน: นกกระเตทั้งตัวผู้และตัวเมียจะร่วมกันดูแลลูกหลาน โดยจะช่วยกันให้อาหารลูกนก

ความสำคัญของนกกระเต

นอกจากความสวยงามแล้ว นกกระเตยังมีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ด้วย

• การควบคุมประชากรแมลง: เนื่องจากนกกระเตกินแมลงเป็นอาหาร

• การแพร่พันธุ์พืช: เมล็ดพืชที่ถูกนกกระเตกินจะถูกขับออกมาพร้อมกับมูล และอาจงอกงามเป็นต้นไม้ใหม่

ความหลากหลายของนกกระเต

มีสายพันธุ์นกกระเตมากมายทั่วโลก ดังแสดงในตารางด้านล่าง:

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง:

• Diurnal: สัตว์ที่หากินในเวลากลางวัน
• Coo-coo/Doo-doo: เสียงร้องของนกกระเต

ข้อสนุกๆ: รู้ไหมว่าชื่อ “Dove” ในภาษาอังกฤษมาจากคำภาษาลैตินโบราณ “columba” ซึ่งแปลว่า “นกพิราบ”?